lifestyle - makeup
fashion
by HELLOXNINI

Sunday, March 30, 2014

Cosmetic Shopping in Japan แหล่งซื้อเครื่องสำอางในญี่ปุ่น

พาสาวๆช็อปคสอ.ใน JAPAN
สวัสดีค่ะวันนี้นั่งเฉื่อยๆอยู่ในบ้านเลย ลองตะลุยเที่ยวญี่ปุ่นใน google map ดู
เนื่องจากนิเคยมีโอกาสไปอยู่ญี่ปุ่นมาหลายเดือน บวกกับความชอบช็อปปิ้ง(ซื้อทุกวัน)และเป็นคนจุกจิก เรื่องราคา....(ขี้งก)ก็เลยได้ไปตะลอนๆ แวะดูสินค้ามากมาย และได้ความรู้จากเพื่อนที่เป็นรูมเมทชาวไต้หวัน(งกด้วยกัน) เรื่องร้านรวงต่างๆอีกด้วยแถมช่วงนี้เห็นชาวไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันบ่อยมากๆก็เลยอยากลองมาแบ่งปันเพื่อนๆดูค่ะนิอยู่ที่โตเกียว แต่ไม่ค่อยได้ไปไหนมาไหนมากเท่าไหร่ค่ะแต่ก็จะแนะนำร้านในย่านที่ทัวร์ชอบพาไปละกันนะคะ เพื่อนๆที่ไปเที่ยวจะได้ลองไปดูค่ะเครื่องสำอางที่ญี่ปุ่นนะคะ จะมีขายตามร้านยา และห้างต่างๆค่ะแล้วแต่ว่าเป็น counter brand หรือว่าเป็นแบรนด์ที่สามารถหาได้ตามร้านทั่วไป
SK-II นี่สามารถหาได้ตามร้านยานะคะ งงเหมือนกัน... อาจเป็นเพราะความดังเลยต้องมีขายหลายที่...
ร้านยา และร้านขายเครื่องสำอาง รวมไปถึงร้านรวมทุกสรรพสิ่ง ที่ดังๆก็จะมีดังนี้ค่ะ
  1. Matsumoto Kiyoshi หรือเรียกว่า มัตสึคิโยะ เป็นร้านที่ขายทั้งยา เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง ขนม เครื่องดื่มต่างๆ รวมไปถึงชั้นใต้ดินที่มีขายน้ำยาถูพื้นและน้ำยาซักผ้าต่างๆ... มีสาขาอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่นค่ะ
     
2.   Sun Drugs เป็นร้านแดงๆ จะเห็นได้ทั่วไป ลักษณะคล้ายมัตสึคิโยะค่ะ
3. Don Quijote (ดองกิโฮเต้) หรือ เรียกสั้นๆว่า “ดองกี้” มีอยู่ตามเมืองทั่วไปเช่นกัน หากแต่ร้านนี้มีทุกสรรพสิ่งอย่างที่เรานึกได้ หาซื้ออะไรไม่ได้ให้มาดองกี้ คือฉายาของร้านนี้ค่ะ แถมยังเปิดถึงดึกดื่น บางสาขานี่โต้รุ่งเลยก็มี
4. Loft ลอฟท์ ที่เราคุ้นตากันดีในบ้านเรา ไม่อาจเทียบเท่า ลอฟท์ที่ญี่ปุ่นได้ค่ะ มันใหญ่และของเยอะมาก ชั้นเครื่องสำอางค์ ค่อนข้างเป็นสวรรค์สำหรับสาวๆเลยทีเดียว
5. 三千薬品 ร้าน Sanzenyakuhin ร้านยาทั่วไปคล้ายร้าน sundrugs และ matsu kiyo หากแต่มีของถูกซ้อนเร้นอยู่หลายสาขา
6. Ainz, Tulpe ร้านนี้จะดังมากๆสำหรับคนที่ชอบไปช็อป ที่ฮาราจุกุค่ะ มันอยู่แถวสถานีพอดี จุดพิเศษของร้านนี้คือ นอกจากจะมีเครื่องสำอางค์ญี่ปุ่นแล้ว ยังมีเครื่องสำอางค์แบรนด์ต่างประเทศมาขายในราคาถูกมากๆอีกด้วย เช่น Lancome, YSL etc. ชอบมีโปรซื้อ 2 ชิ้นในราคา 1 ชิ้นทำนองนี้ แถมน้ำหอมที่ร้านนี้ก็ยังราคาถูกมากมายถล่มทลายอีกต่างหาก...

นี่ก็เป็นร้านยาที่นี่ชอบไปบ่อยๆนะคะ อาจมีร้านอื่นที่นิยังไม่ได้ไป และมีของถูกกว่า ก็ขออภัยเพื่อนๆด้วยนะคะ ที่ยังไม่อัพเดท 55
.
.
.
เอาล่ะค่ะ เรามาเริ่มช็อปตามย่านต่างๆกันเลยเกริ่นนิดนึงค่ะ ว่าราคาสินค้าของประเทศญี่ปุ่นนั้น มักจะมีราคาไม่ค่อยเท่ากันสักร้านค่ะ แล้วแต่โปรฯของร้าน และแล้วแต่วันด้วยค่ะอาจมี ร้านนี้สินค้า A ถูก แต่ สินค้า Bแพง หรือ วันต่อมา ขึ้นราคา ก็เกิดขึ้นได้ค่ะ... แต่นิก็จะแนะนำร้านที่เห็นและได้มีประสบการณ์ของถูกมาให้นะคะ
เริ่มจากย่านที่นิคิดว่าเจอของถูกสุดๆก่อนเลยละกันค่ะUENO อุเอโนะค่ะ
ที่อุโอโนะจะอยู่ใกล้ๆกับสถานี OKACHIMACHI ซึ่งถ้าลงจากโอกาจิมาจิ เดินออกมาแปปนึงจะเจอถนนที่เรียกว่า AMEYOKO

ซึงเป็นถนนที่มีสินค้าต่างๆ ผลไม้ ปลาสด รวมไปถึงเครื่องสำอางค์และยาเดินๆไปอาจอ้วนได้เพราะผลไม้น่าทานมาก แถมร้านอาหารก็เยอะตัดกลับมาที่ร้านคสอ.กันค่ะ


ร้านแรกที่นิแนะนำOS Drugsร้านนี้เพื่อนไต้หวันแนะนำมาค่ะ บอกว่า ยา วิตามิน อาหารเสริม ร้านนี้ถูกมาก ทัวร์จีนชอบมาลงแต่ถ้าใครมาหากันแดด anessa ของ shiseido ที่นี่ไม่มีนะคะ
ของถูกขึ้นชื่อร้านนี้คือ คอลลาเจน meiji  และวิตามินต่างๆค่ะ



Matsumoto Kiyoshi


ที่อุเอโนะก็มีสาขานะคะ แต่นิคิดว่าที่ชิบุยะถูกกว่านิดนึง แต่ถ้าใครสะดวกก็ซื้อที่ร้านนี้ได้เลยค่ะถูกและของเยอะ (จะมีเจาะรายละเอียดด้านล่างค่ะ)


เดินมาเรื่อยๆ ก็จะเจอร้าน ตั้งขายน้ำหอม SK II เครื่องสำอางค์นำเข้าต่างๆ คือตั้งแบบเยอะมาก จนอาจคิดว่าเป็นของปลอม
แต่ร้านที่นิซื้อมาเอง และรับรองว่าเป็นของจริง ชื่อร้านว่า

Silk road ค่ะ มี 3 สาขา อยู่ในซอยนั้นแหละค่ะ
เครื่องสำอางค์นำเข้าราคาถูกมากๆ โดยเฉพาะ SK-II  ถูก อลังการมากมาย (ถูกสุดเท่าที่สำรวจมา)
และน้ำหอม ก็ราคาถูกมากๆ แต่ดูให้ดีๆด้วยนะคะ ว่าเป็น Eau de parfums หรือ Toilette




เดินออกมาจนสุดถนนอาเมโยโกะจะเจอร้านร้านนึงชื่อ三千薬品 ร้าน Sanzenyakuhin
ตอนนิไปเจอ ร้านนี้ขายมาร์คเต้าหู้ราคาถูกมาก รู้สึกกระปุกใหญ่จะราคา 1,200 เยน (อาจเปลี่ยนแปลงแล้วก็ได้)





ต่อมา


SHIBUYA ทราบว่าทุกทัวร์ที่ไปโตเกียวต้องมาปล่อยทุกคนช็อปที่นี่แน่ๆ

ถ้าออกมาจากสถานีชิบุยะ จะเจอ ร้าน Matsumoto Kiyoshi ถึง 2 ร้านด้วยกัน
แต่ตอนนิซื้อ ร้านที่ 2 ที่เห็นแอบถูกกว่านิดนึง ตอนนั้นซื้อถุงน่องลดขา (ราคาต่างกันถึง 300 เยน) และกันแดด Anessa จะราคาถูกกว่าสาขาอื่น
ร้านมัตสึคิโยะ นั้นจะขึ้นชื่อลือชา เรื่องคสอ. ยา และวิตามินต่างๆขนตาก็เพียบ พอๆกันกับดองกี้
บางทีก็จะแจกคูปองส่วนลดมา สามารถเก็บไว้ใช้ได้นะคะ เลิศมาก ลด 10-15% (10% สำหรับคสอ.ที่ร่วมรายการ และ 15 %สำหรับยา)
ส่วนเรื่องราคาอื่นๆ ก็เป็นไปตามสาขาร้านค้า ค่ะ แต่ส่วนมากก็เกินกันไม่เท่าไหร่









และก็มาถึงร้านAinz, Tulpe ที่ตั้งอยู่ที่ฮาราจุกุ นะคะ


ร้านนี้เดินผ่าการ์เรตป๊อปคอร์นมาเรื่อยๆ จะเห็นเป็นเวิ้งๆ ร้านนี้จะตั้งอยู่ตรงนั้นค่ะ แถวๆมุมโค้ง(ระวังเวลาเดินหน่อยก็ดีค่ะ เพราะสาวๆชอบสะดุดล้มแถวหน้าร้านนี้มาก ไม่รู้เป็นอะไร นิเคยไปร้านนั้น 3 ครั้ง เจอสาวญี่ปุ่นสะดุดล้มถึง 3 ครั้งเลยทีเดียว มีครั้งนึงถ้านิไม่ไปกั้นไว้ฟันนางอาจหักได้ ยังไงๆก็ระวังกันนะคะ)
ร้านนี้อย่างที่แนะนำไว้ค่ะ ว่ามี น้ำหอมและเครื่องสำอางต่างประเทศราคาถูกขายอยู่มาก โปรฯเด็ดๆมีเยอะ







ส่วนเครื่องสำอางของญี่ปุ่นก็มีค่ะ


Loft Harajukuลอฟท์ที่สาขา ชิบุยะถ้าเดินขึ่นไปชั้นเครื่องสำอางจะพบ เครื่องสำอาง ที่หนีบผมเยอะแยะมากมายค่ะ


ส่วนร้านสุดท้ายที่นิจะแนะนำคือร้านนี้ค่ะ
Don Quihote สัญลักษณ์คือ นกเพนกวิ้น
แล้วก็เพลงที่ร้อง ดอง ดอง ดอง ดองกี้ ดองกิโฮเต้~


Bioderma ราคาขวดละ 600 กว่า บาท (ขวดใหญ่)



ร้านนี้นิคิดว่าเป็นร้านที่ขายขนตาปลอมเยอะสุดในบรรดาร้านทั้งหมดนะคะ เยอะเท่าๆกับที่ Loft เลย







** อันนี้สำหรับสาวๆที่อยากมีตัวช่วยในการตัดสินใจเวลาเลือกเครื่องสำอางค์

ที่ญี่ปุ่นจะมี website ชื่อว่า www.cosme.net ที่คอยจัด ranking อันดับว่ามี เครื่องสำอางค์ตัวไหนใช้ดี
โดยมีการสำรวจและโหวต (น่าจะเป็นรายเดือน/ปี) ค่ะ
เวลาเราซื้อเครื่องสำอางค์ ไม่ว่าจะเป็นในห้าง หรือในร้าน มักจะมีป้ายแปะตามสินค้าว่า อันนี้ได้รับรางวัล cosmenet  นะ (ที่1 ที่ 2 ก็ว่าไป)
ซึ่งถ้ามีป้าย นี้แปะอยู่ จะทำให้สินค้าขายดีเลยล่ะค่ะ

ทาง Cosmenet นั้น ก็มีช็อป เป็นของตัวเองด้วยนะคะ ชื่อว่า cosme store เพียงแต่มีไม่กี่สาขาเท่านั้น
ซึ่งของที่ขายในร้านก็จะเป็นพวกที่ได้รับการโหวตมากที่สุด หรือพวกที่ได้รับรางวัล ประมาณนี้ค่ะ

ส่วนราคา ก็จะแพงกว่าร้านข้างนอกนะคะ ส่วนใหญ่จะขายราตามกล่องเลย.

อันนี้เป็นรูปสาขา Lumine, Shinjuku ค่ะ


ซึ่งในร้านก็จะมีการวางขายสินค้าตามลำดับความนิยมและการโหวตค่ะ
อันนี้โซน eyeliner


สาขาที่เปิดก็จะมี

สาขา Shinjuku ห้าง Lumine ชั้น B2F
สาขา Ueno ห้าง Marui (OIOI) ชั้น B1F
สาขา Shibuya ห้าง Marui city ชั้น 2F
สาขา Ikebukuro ห้าง Lumine  ชั้น 7F
สาขา Yurakucho ห้าง Lumine ชั้น 7F


ก็ขอบอกตรงนี้ไว้นะคะว่านี่เป็นข้อมูลล่าสุดมกราคม 2014 นิไม่รู้ว่าตอนนี้เปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
เพราะกลับมาที่ไทยแล้ว ... และร้านที่ไปก็เป็นร้านที่ไปบ่อยๆ ค่ะ 
นิคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่จะไปเที่ยว เลยมาแบ่งปันค่ะ

เจอกันบล็อกหน้าค่ะ จะพาไปชิมอิอิ ^^










No comments:

Post a Comment

 photo s_03.jpg  photo s_04.jpg  photo s_05.jpg  photo s_06.jpg  photo s_07.jpg  photo s_08.jpg  photo s_09.jpg  photo s_10.jpg