Yves Saint Laurent Glossy Stain #20
Dior Addict Fluid Stick #754
สวัสดีค่ะทุกคน :)
ช่วงซีซั่นนี้สาวๆก็คงจะฮิต สีปากสีจี๊ดจ๊าด แจ่มๆ กันใช่ไหมเอ่ย??
วันนี้นิเลยเขียนบล็อครีวิว ลิปที่ไปซื้อมาเร็วๆนี้ 2 ตัวให้ชมกันค่ะ
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Dior ได้ออกลิปสติกรุ่นใหม่ล่าสุดมา
เป็นแบบจิ้มจุ่ม
ได้โอกาสเลยไปสอยมาซะ นิได้มาเป็นสี Pandora #754 เป็นสีแดงอมชมพู ค่ะ
ส่วนอีกอันที่ได้มาเป็นของ YSL รุ่น Glossy Stain เป็นสีแดงอมส้มค่ะ สี #208 ค่ะ
แพ็คเกจของทั้ง 2 ตัวออกแบบมาได้สวยหรูดูแพงมาก ต่างกันที่ สีเงิน vs สีทอง ค่ะ
โดยที่เป็นลิปเนื้อกลอสวาวๆ เหมือนกัน พิกต์เมนท์แน่นทั้งคู่ ทาแล้วกลบสีปากหมดทั้งสองตัวค่ะ
เปรียบเทียบ แปรงของทั้งสองยี่ห้อนะคะ คล้ายๆกัน
ส่วนเนื้อลิป เป็นเนื้อกลอสวาวๆ ต่างที่ ysl จะมีเกล็ดวิ้งๆ อยู่ด้วย จะมีกลิ่นหอมๆ (แล้วแต่คนชอบ บางคนบอกเหม็นฉุน)
ส่วน Dior ให้เนื้อ pigment ที่แน่นมากทาแล้วเคลือบปากเหมือนเคลือบไอติมแดรี่ควีนเลยค่ะ
ส่วนกลิ่นจะเป็นแบบเครื่องสำอางมากๆเลยค่ะ ไม่หอม (ไม่ค่อยชอบ)
เวลาทาแล้ว ความจัดแจ่มของสี ต้องยกให้ Dior ค่ะ แน่นกว่า YSL
(ขออภัยค่ะ Dior ไม่ใช่ Doir -_-" ปล.ขนมือน่ารักมาก อย่าใส่ใจนะคะ แหะๆๆ)
หลังจากซับด้วยทิชชู่ 1 ครั้ง Dior สีติดแจ่มกว่า แต่ทว่า...
พอใช้ทิชชู่ปากเช็ดออกแรงๆ YSL กลับทิ้งสีไว้เยอะกว่า.. ส่วน Dior แทบจะหายไปหมด
ด้วยทาง YSL บอกว่ารุ่นนี้เป็น Lip Stain จึงติดทนทานนานข้ามยุค
ถึงเนื้อกลอสจะหลุดไป แต่จะทิ้งสีเอาไว้ที่ปากเหมือนเดิม เหมาะสำหรับสาวๆที่ไม่ชอบเติมลิประหว่างวันค่ะ
ความทนทานจึงต้องยกให้ YSL
เปรียบเทียบให้ดูเวลาทาบนปากค่ะ ด้านบน YSL ด้านล่าง DIOR
สรุปได้ดังนี้ค่ะ
ความแจ่มชัดของสี
DIOR ♥♥♥♥♥
YSL ♥♥♥♥
ความติดทนของเนื้อลิปสติก
DIOR ♥♥♥
YSL ♥♥♥♥♥
ราคา YSL, DIOR ( 1,300 THB) แพง ร้องไห้แปป 555
DIOR ♥♥♥
YSL ♥♥♥
ส่วนตัวแล้วนิชอบทั้งสองรุ่นนะคะ สลับกันใช้เรื่อยๆ เพราะทั้งสองอันนี้ทาแล้วหน้าสว่างมาก :)
ก็ขอจบรีวิวเล็กๆไว้เท่านี้ค่ะ หวังว่าจะเป็นตัวเลือกให้สาวๆได้พิจารณาได้นะคะ เจอกันค่ะ ^^
xoxo
♥
ก็นึกว่าบล็อกเกอร์คนไหนมารีวิวนะ เลื่อนไปดูชื่อ อ่อ นีนี่นิเอง
ReplyDelete